รีวิวเกม

(รีวิว) Lime Odyssey MMORPG เกรด A จากผู้สร้าง RO2

 

เชื่อได้ว่าคงมีหลายคนรอคอยอยากที่จะเล่นเกม MMORPG อย่าง Ragnarok ภาค 2 กัน ซึ่งก็ต้องเกริ่นก่อนว่า ตัวเกม RO2 มันมี 2 เวอร์ชั่น ซึ่งเวอร์ชั่นแรก สร้างมาแล้วแป้กและเจ๊ง ทำให้ทางทีมผู้พัฒนาที่พัฒนาเกม RO2 ได้ลาออกกันแล้วมาสร้างเกมกันใหม่ ซึ่งทั้งเกมเพล , ภาพกราฟฟิกนั้นมีความคล้ายคลึงกับ RO2 เวอร์ชั่นแรก จึงทำให้เกมนี้เป็นที่น่าจับตามองของเกมเมอร์ทั่วโลกกันเลยทีเดียว เพราะฝีมือการสร้างเกมของผู้พัฒนา RO2 ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว และใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงเกม MMORPG เกรด A อยู่ และนั่นก็คือ Lime Odyssey นั่นเอง

Lime Odyssey เป็นเกมแนว MMORPG ที่มีเนื้อหาไม่เกี่ยวอะไรกับ Ragnarok เลยแม้แต่น้อย โดยเนื้อเรื่องเกมจะกล่าวถึงผลไม้ของพระเจ้าที่ชื่อว่า Lime ซึ่งเทพธิดา Nysis ได้ประทานมาให้ เพื่อเป็นของขวัฐแก่ชนเผ่าทั้งสามในเกม แต่ปรากฎพลังอำนาจของผลไม้เทพเจ้าทำให้หลายคนอยากได้กัน เลยเกิดสงครามแย่งชิงกัน ผู้คนล้มตายกันเป็นจำนวนมาก กาลเวลาผ่านไป จนมาถึงปัจจุบัน ผลไม้แห่งพระเจ้ายังคงรอคอยเหล่าผู้กล้าผู้ที่จะค้นหามันให้เจอ ซึ่งเนื้อเรื่องต่อจากนี้ คุณจะได้รับบทเป็นหนึ่งในผู้กล้า ผู้ที่จะสานต่อตำนานเพื่อค้นหา Lime ผลไม้แห่งพระเจ้าให้เจอนั่นเอง

อินเตอร์เฟสในเกม

ตัวเกมนั้นเป็นเกมเก็บเลเวลที่มีรูปแบบการเล่นคล้ายคลึงกับเกมอย่าง Prius อย่างมากเลยหละครับ กล่าวคือ ไอ้พวกระบบออโต้เดินเองนะไม่มีหรอก (แบบนี้สิถึงจะเรียกว่า MMORPG) และตัวสภาพแผนที่นั้นก็จะเป็นรูปแบบกึ่ง OpenWorld คือ ทั้งเมือง , หมู่บ้าน , พื้นที่้เก็บเลเวล และดันเจี้ยน เข้าไปได้หมดเลยโดยไม่ต้องโหลดแมฟ ทำให้การเล่นเกมนี้มีความคล้ายคลึงกับเกมอย่าง ลินเนจ 2 ด้วยแหละครับ และนั่นก็หมายความว่า ในการเก็บเลเวลและทำเควส ตัวเกมจะไม่ค่อยสอนอะไรเท่าไหร่ เราต้องสังเกตมองหา NPC ที่ให้เควสเราเอง

สรุปว่าทหารทุกเกมเป็นง่อยกันหมดใช่ไหม ? ถึงใช้แต่พวกเราเนี่ย ??

ตัวเนื้อเรื่องเควสของเกมนั้นถามว่ามันดีมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องตอบว่าออกมาแนวๆ เกมเก็บเลเวลปกติเลยครับ คือมีตัวหนังสือมาพรึบๆ ให้เราอ่านเยอะๆ แถมตัวเล็กกระจิ๊ดริด (จ้องอ่านนานๆ รับรองปวดตากันแน่) ตัวเกมนั้นสามารถปรับ UI เพื่อขยายตัวอักษรให้ใหญ่ได้ แต่ประทานโทษ ยิ่งปรับ ตัวอักษรยิ่งเบลอ – -v ซึ่งจุดนี้ต้องให้ทางทีมงานปรับแก้ก่อนเกมเปิด CBT อีกที และในส่วนของเนื้อหาเนื้อเรื่องนั้น ก็เหมือนเกมออนไลน์ทั่วไป คือประมาณเราเป็นหนึ่งในนักรบที่ต้องโดน NPC ให้ไปช่วยนู่นช่วยนี่เหมือนคนใช้ แต่ตัวเนื้อเรื่องก็ยังมีการบอกว่ามันมีเรื่องอะไรกัน โดยเฉพาะจุดศูนย์กลางของเรื่องนั่นก็คือ ผลไม้เทพเจ้า Lime ที่จะมีการเอ่ยถึง ซึ่งหมายความว่า ตัวละครในเกมนี้ ทุกคนรู้จักผลไม้ Lime ดี

ความน่ารักไม่ต้องถาม เพราะน่ารักโฮก!

ในเกมนี้จะมี 3 เผ่าพันธุ์ให้คุณเลือกเล่น นั่นก็คือ มนุษย์ , เผ่ามูริส ซึ่งเป็นครึ่งคนครึ่งหนู และเผ่าเทอร์การ์ เป็นเผ่าครึ่งคนครึ่งสิงโต โดยทุกเผ่าและเพศจะไม่มีผลใดๆ ต่อการเลือกอาชีพ ยกเว้นเผ่าเทอร์การ์ ซึ่งจะไม่สามารถเล่นอาชีพจอมเวทย์ได้ (ในการเทสนี้ผมได้ลองเล่นเผ่าเทอร์การ์สาวตามความหื่น… เอ้ย ตามความชอบส่วนตัวครับ) โดยคุณจะต้องเลือกอาชีพหลักที่จะเล่น (นักดาบ , นักฆ่า , ผู้สนับสนุน และจอมเวทย์) และอาชีพรอง นั่นก็คือ ช่างตีดาบ , ช่างตัดเย็บ และพ่อครัว ซึ่งอาชีพเสริมพวกนี้จะเอาไว้ในการสร้างวัตถุดิบต่างๆ นั่นเองครับ

ไม่ต้องหาให้เสียเวลา เพราะเกมบอกให้เรารู้เลย

การเล่นของเกมนี้นั้นก็จะออกแนวอีหรอบเดิมคือต้องรีบเควสและไปล่ามอนเตอร์ , เก็บของ ตามที่ NPC กำหนด โดยตัวเกมจะมีการบอกให้เรารู้ว่า มอนเตอร์ตัวไหน หรือวัตถุดิบส่วนไหนที่เราสามารถทำเควสได้ โดยจะมีสัญลักษณ์ “?” ขึ้นอยู่ หมายความว่าถ้าเราตีตีอื่นที่ไม่มีตัว ? ขึ้นบนหัว เราก็จะไม่ได้เควส ระบบนี้เรียกได้ว่าสะดวกและแปลกใหม่มาก เพราะการตีมอนเตอร์ที่มี ? บนหัว % ในการทำเควสนั้นจะสำเร็จสูงมาก ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลานั่งจ้องมองชื่อหรือนั่งงมตามหามอนเตอร์ อีกทั้งในแผนที่จะมีการบอกตำแหน่งให้เรารู้ด้วยว่าอยู่กันตรงไหน เราจะได้วิ่งไปถูก

เท่าที่ลองเล่นมา ไม่เคยเจอมอนเตอร์ที่หน้าตาน่ากลัวสักตัว

การโจมตีของเกมนี้นั้นจะออกมาแนว Ragnarok หรือ WOG เลยครับ นั่นก็คือ เราจิ้ม…มอนเตอร์จิ้ม…ต่อไปก็ตาเราจิ้ม…แล้วมอนเตอร์ก็จิ้มบ้าง ฯลฯ แน่นอนว่ามันอาจเป็นระบบที่โคตรน่าเบื่อได้ หากว่าตัวเกมไม่เน้นสกิล ซึ่งตัวเกม Lime Odyssey นั้นจะเน้นการใช้สกิลโจมตีมากกว่าโจมตีปกติครับ การโจมตีปกติ เผลอๆ เราอาจโดนมอนเตอร์ตบตายก่อน ทำให้การโจมตีในเกมนี้ทำได้ไวกว่าการโจมตีปกติ และในการทำเควสนั้น เราก็ไม่ได้โจมตีมอนเตอร์กันทีละ 10 หรือ 20 ตัว แต่ให้ตีแค่ 3 ตัว 5 ตัว หรือ 7 ตัวเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย แถมการโจมตีจะมีการเก็บเกจเอาไว้ หากเก็บครบแล้วกดใช้ ก็จะระเบิดพลังทำให้การโจมตีและความอืดตัวละครโหดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง (เหมือนกินยานะแหละ) ทำให้เมื่อเทียบกับ WOG แล้ว ระบบการโจมตีของเกมนี้น่าสนใจ สนุก และไวกว่าครับ

ตัวเกมไม่ได้รีบเร่งสอนอะไรมากมาย จะค่อยๆ สอนไปทีละสเต๊ป

ดังนั้นเมื่อมาแนวนี้ก็ต้องหมายความว่า ตัวเกมนั้นเลเวลก็ต้องขึ้นช้า แต่ทั้งนี้ตัวเกมจะออกแนวทำนอง ให้เราเป็นคนค้นพบหาคำตอบอะไรด้วยตนเองโดยมี NPC เป็นผู้ชี้แนะ (ตัวเกมยังมีการบอกตำแหน่งและบอกทิศทาง ซึ่งต่างจาก Prius ตรงที่บางทีไม่บอกอะไรเลย) และตามทางนั้นจะมีเควสให้เราทำตลอด ไม่ต้องห่วงว่าพอไปถึงระดับหนึ่งแล้วจะต้องไปตีมอนเตอร์เพื่อให้เลเวลอัพ และการทำเควสเกมนี้ก็ไม่ได้จำกัดแค่การตีมอนเตอร์อย่างเดียว มีให้เราไปหาของ , เก็บของ อีกด้วย แต่ตัวเนื้อหาเควสนั้น บางเควสอธิบายได้โคตรงง ซึ่งตรงนี้ทางเราจะเสนอแนะทางทีมงานให้แปลเนื้อหาของเควสเพื่อให้คนเล่นเข้าใจมากกว่านี้

ไม่บอกให้ตีตัวนี้ แล้วจะรู้ไหมเนี่ยว่าให้ไปตีตัวไหน – – *

มันไม่เข้าใจยังไง ? สมมุติผมยกตัวอย่างเควสหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาเควสบอกว่า มันจะมีแมลงซ่อนอยู่ตามต้นไม้ ให้เราไปหาแล้วฆ่าซะ แต่จะมีไม่ทุกต้น คำถามคือ มันต้นไหน ? ชื่อต้นไม้ในเควสก็ไม่มีบอก เดินหาก็ไม่มีแมลงซักตัว และต้นไม้ก็จะมี 2 แบบ มีทั้งเป็นต้นไม้ให้เราเก็บวัตถุดิบ (และต้นไม้ก็มี 2 – 3 แบบในบริเวณนั้นอีกต่างหาก) กับต้นไม้ที่เป็นมอนเตอร์ กว่าจะรู้ มันก็คือให้เราไปตีมอนเตอร์ที่เป็นต้นไม้เนี่ยแหละครับ ทำให้ตัวเกมนี้ในการเล่น ไม่ได้ง่ายจนเกินไป เพราะเป็นเนื้อหาเกมที่เราจำเป็นต้อง “ค้นหาคำตอบ” ด้วยตนเอง ไม่ก็ถามคนเล่นคนอื่นเอาครับ

ขนาดท่าเก็บวัตถุดิบยังทำออกมาได้เป็นธรรมชาติเลย

จุดเด่นอีกอย่างของเกมนี้ก็คือ ท่วงท่าการเคลื่อนไหวกราฟฟิกแอนิเมชั่นของตัวละครในเกมนี้ ทั้งตัวละครเรา , มอนเตอร์ และ NPC มีชีวิตชีวามากที่สุด เรียบง่าย สดใส และให้อารมณ์กลิ่นอายแอนิเมะมากๆ ขออนุญาติอวยตัวละครเผ่าเทอร์การ์สาวที่ผมเล่นนะครับ ซึ่งเผ่านี้การแสดงท่าทางจะไม่ได้มีแค่ส่ายหางอย่างเดียว แต่ใบหูยังกระดิกไปมาด้วย! ซึ่งทำให้นึกถึงตัวละครการ์ตูนเรื่องหนึ่งในญี่ปุ่นเลยทีเดียว ทำให้เราเห็นแล้วคิดได้เลยว่า ตัวเกมนี้ตัวละครต่างมีชิวิต ไม่ใช่หุ่นเชิดที่เราบังคับให้ไปทำนู่นทำนี่ได้ และท่าทางการเคลื่อนไหวก็นั้น NPC ก็จะมีเหมือนกัน ไม่ได้ยืนทื่อๆ เหมือนหุ่นยนต์ นอกจากนี้การเคลื่อนที่และการโจมตีมอนเตอร์ทำออกมาได้เป็นธรรมชาติ มองแล้วเพลินตามาก ทำให้ในการเล่นเกมนี้ เรามองดูตัวละครเราแล้วจะไม่ค่อยรู้สึกเบื่อเท่าไหร่นัก

เป็นเกมที่ทำให้ผมรู้สึกว่า นี่มันคือ “บ้าน” จริงๆ

และแน่นอนว่าสำหรับเกมแนวนี้มันก็ต้องมีระบบการเล่นที่หลายคนอยากได้ อย่างเช่น การกระโดดที่กระโดดข้ามสี่งกีดขวางได้จริงๆ ไม่ใช่กระโดดขำๆ , การว่ายนํ้าที่สามารถดำนํ้าได้อิสระด้วย และเกมนี้ก็ยังเน้นการ “นั่ง” เพื่อเพิ่มเลือดด้วยอีกต่างหาก (อารมณ์เดียวกับ Ragnarok เด๊ะ) และอีกรูปแบบการเล่นที่ผมค่อนข้างชอบก็คือ ตอนเวลาเข้าไปในร้านค้าหรือบ้านคน จะไม่มีประตูวาร์ป และการเข้าก็จะรู้สึกเหมือนเราเข้าไปในบ้านจริงๆ กลิ่นอายของเกมนี้จึงออกแนวทำนองเกม RPG ที่เป็นเกมออฟไลน์เลยหละครับ

ไม่มีปาร์ตี้ก็ต้องลากให้บอสออกมาหวดกับเราตัวๆ เนี่ยแหละ

แล้วถามว่าตัวเกมเล่นง่ายไหม ? ก็ต้องตอบว่ามันง่ายอยู่หากเล่นแล้วอ่าน เพราะตัวเกมก็เฉลยมอนเตอร์และของที่เราต้องไปหามาให้พร้อม แถมบอกตำแหน่งพื้นที่ให้เสร็จสรรพ แต่กระนั้นตัวเกมเน้นความเป็นปาร์ตี้สูงมาก บางเควสเราไม่สามารถลุยเดี่ยวได้ หรือได้แต่ก็อาจลำบากหน่อย แต่อีกจุดที่น่าสังเกตคือ การโจมตีมอนเตอร์เกมนี้ พอมอนเตอร์ตายแล้ว หลายพื้นที่ ตายแล้วตายเลย ไม่เกิดมาอีก ทำให้คาดเดาได้ว่าตัวเกมออกแบบมาเพื่อจำกัดมอนเตอร์สำหรับคนในปาร์ตี้และป้องกันการแย่งตีกัน แต่เมื่อเกมเปิดจริง มีคนเล่นแห่ยัดกันเข้ามาเยอะๆ ระบบนี้จะทำให้หามอนเตอร์ยากกันมากขึ้นไหมก็ต้องดูกันอีกที

สภาพแวดล้อมเกมนี้ทำออกมาได้เนียนมาก โดยเฉพาะเอฟเฟคควันและฝุ่น

กราฟฟิกของเกมนี้ออกมาในทำนองแนว RO2 เวอร์ชั่นแรก ซึ่งออกมาแนวสบายๆ อบอุ่น น่ารัก สดใส แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้แสดงภูมิประเทศออกมาเป็นโลกมากเท่าไหร่นัก แต่จะออกแนวธรรมชาติและสบายตาเสียมากกว่า ขณะเดียวกันก็เน้นความรู้สึกออกแนวบรรยากาศให้เรารู้ว่าพื้นที่แต่ละพื้นที่เป็นยังไง ยกตัวอย่างเช่นฝุ่นควันที่อยู่ในพื้นที่ทะเลทราย ซึ่งจะบอกว่าฝุ่นทรายพวกนี้เทียบกับ Prius แล้วยังทำได้เนียนกว่าและเป็นธรรมชาติมากกว่าด้วยซํ้า

ที่เห็นคิดว่าไม่น่าใช่เลือดนะ เพราะการโจมตีท่าอื่นไม่มีสีแดงเลย

ระบบเสียงในเกมนี้นั้นถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม บทเพลงประกอบเกมนี้ถูกสร้างสรรค์โดย Yasunori Mitsuda ซึ่งเป็นผู้ประพันธ์เพลงให้กับเกมอย่าง Final Fantasy V และอีกหลายเกม ดังนั้นรับประกันได้เลยครับว่าเพลงประกอบเกมนี้ ไพเราะและอลังมาก แต่ในพื้นที่เก็บเลเวลจริงๆ มันก็ไม่ได้อลังเท่าไหร่นัก ออกแนวสบายๆ อบอุ่น ฟังเพลินๆ เสียมากกว่า และเพลงก็จะมีราวๆ 2 – 3 เพลง ให้ฟัง เพลงหมดก็หยุดสักพัก แล้วเพลงก็จะมาใหม่ ทำให้เล่นเกมนี้ขณะฟังเพลงแล้วไม่รู้สึกน่าเบื่อเท่าไหร่ เพราะฟังบ่อยๆ นานๆ ก็ยังฟังได้เพลินๆ อยู่ แต่ก็แอบชวนง่วงได้เหมือนกัน ส่วนเสียงการโจมตีมอนเตอร์นั้นถือว่าทำออกมาได้ดี เสียงเพลงไม่โหดสะใจเท่าไหร่นัก ออกแนวกำลังดีสำหรับเกมแนวนี้ครับ

เสียงพากษ์อังกฤษเกมนี้ทำให้ผมรู้สึก..เซ็งเป็ด!

แต่ที่แย่หน่อยก็คือ เสียงพากษ์ภาษาอังกฤษเกมนี้บอกได้เลยว่าไม่ค่อยเข้ากับตัวเกมเท่าไหร่ ตัวเกมเสียงควรจะออกแนวน่ารักๆ โมเอะ แต่ผมเล่นกลับรู้สึกคนพากษ์ไม่ได้ใส่อารมณ์เข้าไปได้ดีเท่าที่ควร (ไม่ใช่ผมแฟนบอยเสียงพากษ์ญี่ปุ่นนะ เสียงพากษ์อังกฤษผมก็ฟังได้) แต่เอาเสียงพากษ์เกาหลีมาใส่ เสียงกลับน่ารักและเข้ากับธีมเกมมากกว่าเสียอีก ตรงนี้จุดนี้อาจต้องให้ทางทีมงานพิจารณาให้คนเล่นเลือกได้ว่าจะเอาเสียงพากษ์ภาษาอะไร

บรรยากาศในดันเจี้ยนที่สมอารมณ์เกม MMORPG มาก

โดยสรุปแล้ว เกม Lime Odyssey ถือได้ว่าเป็นเกมแนว MMORPG แนวแฟนตาซีที่น่ารัก อบอุ่น สดใส คลายเครียด เหมาะกับคนเล่นที่ต้องการผจญภัยในโลกของเกมที่มีชีวิตชีวาและไม่รีบเร่งเวลอะไรและต้องการการผ่อนคลาย ดังนั้นแน่นอนว่าสำหรับเกมนี้ไม่เหมาะกับกลุ่มเด็กเกรียนอย่างยิ่ง และก็ไมได้เหมาะกับคนที่ชอบอะไรฮาร์คคอร์เท่าไหร่ สำหรับคนไหนที่ชอบเพลงเพราะๆ อยู่กับเกมแนวน่ารักๆ สดใสแบบเรื่อยๆ กับเนื้อเรื่องแนวนิทานแฟนตาซีแล้วหละก็ เกม Lime Odyssey จะเป็นเกม MMORPG เกรด A ของคุณเลยหละครับ

จุดเด่น
– เนื้อหาเกมเป็นแนวแฟนตาซี มีกลิ่นอายแอนิเมะญี่ปุ่น + เกาหลี ผสมโลกนิทานฝั่งตะวันตก
– กราฟฟิกสดใส น่ารัก ดูอบอุ่นและสบายๆ
– เพลงเพราะ ฟังเพลินๆ ได้ยาวๆ เสียงประกอบทำออกมาได้ดี
– ระบบการเล่นที่สนุกใช้ได้ ไม่ช้าเกินไปจนน่าเบื่อ
– การเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ ทำให้การเล่นเกมนี้ไม่น่าเบื่อ
– ระบบการทำเควสที่บอกว่าต้องทำตรงไหนตีตัวอะไร น่าสนใจมาก
– เกมเน้นปาร์ตี้มาก

ข้อเสีย
– ไม่เหมาะกับคนที่ชอบเล่นแนวสบายๆ หรือคนที่ชอบอะไรฮาร์คคอร์ เลือดสาด เพราะเกมนี้ไม่มี ดังนั้นสำหรับเด็กๆ เกมนี้ไม่เหมาะอย่างแรง
– เนื้อหาเควสบางเควสแปลออกมาแล้วสับสน อ่านแล้วงงมาก
– ด้วยระบบตีมอนเตอร์แล้วหายไปเลยในบางจุด อาจทำให้เกิดข้อสงสัยว่าแล้วเวลาที่มีคนเล่นอัดกันเข้ามาเยอะๆ จะมีปัญหาเรื่องแย่งตีมอนเตอร์กันไหม ?
– ตัวหนังสือตัวเล็ก พอขยายแล้วกลับมัวและเบลอซะอย่างนั้น
– การแปลเนื้อหาของเควส ทำออกมาได้ตรงต้นฉบับเกินไป ไม่สละสลวย ทำให้การอ่านเนื้อเรื่องเควสเกมนี้่ต้องสะดุดอารมณ์ไม่น้อย อารมณ์เลยไม่เหมือนอ่านนิทานหรือนิยายเลย
– เสียงพากษ์อังกฤษ โดยส่วนตัว ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เสียงพากษ์เกาหลียังจะเหมาะกว่า

เกม Lime Odyssey มีกำหนดเปิด CBT ช่วงต้นปีหน้าครับ

ขอขอบคุณ – ทางทีมงาน Godensoft สำหรับการเข้าไปทดสอบเล่นช่วง Exclusive Test ครับ

Leave a comment